ค้นหา
Custom Search
Buried Alive! ฝังทั้งเป็น
และแล้วก็มาถึงอันดับ 1 ของเรา
และแล้วก็มาถึงอันดับ 1 ของเรา
“ฝังทั้งเป็น” เรื่องเล่ากันว่ามีหญิงชายคู่หนึ่งแต่งงานกัน และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จนกระทั้งแก่เฒ่า ภรรยาของเขาได้จากไป เขาจัดพิธีศพตามหลักศาสนาคริสต์ คือนำศพของเธอมาฝังในโลงศพอย่างดี ฝังในสุสาน เพื่อให้เธอพักผ่อนถาวร
เรื่องคงจบเพียงเท่านี้ หากแต่ไม่ เมื่อดึกคืนหนึ่งในขณะที่ฝ่ายชายนอนหลับ เขาได้ฝันน่ากลัวว่า “เขาเห็นภรรยาที่อยู่ในโลงศพลืมตาตื่นขึ้นมา เธอพยายามตะเกียกตะกาย เพื่อออกจากโลงที่ถูกฝังในดิน ความมืด ความแคบ อากาศก็น้อยลงทุกที ทำให้เธอกลายเป็นบ้า และเธอก็กำลังร้องชื่อเขา เพื่อให้มาช่วยเหลือเธอ”
ฝ่ายชายฝันร้ายแบบนี้ทุกค่ำคืน จนกระทั้งทนไม่ไหว เขาเลยร้องขอให้แพทย์ และหน่วยงานท้องถิ่นนำโลงศพของภรรยาของเขาออกมา และเมื่อทั้งหมดเปิดฝาโลงก็ตะลึงเมื่อศพภรรยาของเขาไม่ได้เน่าเบื่อย ซ้ำที่เบิกตาเหลือกโพลง ทำหน้าตาหวาดกลัว ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน ที่เล็บมีเลือดเกรอะกรัง ที่ฝาโลงด้านในมีรอยขีดข่วนชัดเจน
เรื่องของศพที่คิดว่าตายแล้ว นำมาฝังตามพิธีกรรมทางศาสนา หากแต่ต่อมากลับพบว่าผู้ตายนั้นไม่ได้ตายจริง และกลับมาคืนชีพในโลงศพ และพยายามตะเกียดตะกายเอาชีวิตรอดเรื่องราวเหล่านี้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์สยองขวัญมากมายแต่ที่น่าแปลก คือเรื่องเหล่านี้กลายเป็นจริง อีกทั้งมีมากกว่าหนึ่งกรณี
สาเหตุก็เพราะว่า สมัยก่อนนั้นการตรวจสอบผู้ตายนั้นตายจริงหรือไม่? นั้นไม่ค่อยทันสมัย ทำให้มีการฝังในโลงศพทั้งๆ ที่ผู้ตายคนนั้นแค่ตายชั่วขณะ และนี้คือตัวอย่างของผู้มีประสบการณ์ฝังทั้งเป็นที่ฟื้นคืนชีพในโลงศพที่ถึงฝังในดินอย่างน่าสยดสยอง …
ปี 1851 เวอรจิเนีย เเมคโดเนล (Virginia Macdonald) อาศัยอยู่กับพ่อแม่ของเธอในนิวยอร์กซิตี้ และป่วยตาย เธอถูกนำไปฝังในสุสาน
กรีนวู๊ด (Greenwood) บรู๊คลิน นิวยอร์ค อเมริกา หลังจากพิธีฝังศพผ่านไป แม่ของเธอกลับบอกคนอื่นว่า เธอเชื่อว่าลูกของเธอไม่ตาย เธอพูดแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนครอบครัวของเธอทนไม่ไหวเลยต้องขุดโลงศพเปิดฝาโลงให้แม่ของเธอหายข้อข้องใจซะ
ปล. หลังจากนั้นป่าช้าแห่งนี้ได้ถูกย้ายไปที่แห่งใหม่ หลายโรงถูกนำมาตรวจสอบก็พบว่ามีศพหลายศพที่ถูกฝังทั้งเป็นจำนวนมาก..