มนุษย์กระต่ายเป็นตำนานประจำเมืองที่อาจจะเกิดขึ้นจากเหตุการณ์สองเหตุการณ์ในเคาน์ตี้แฟร์เวอร์จิเนียในปี 1970 แต่ได้รับการแพร่กระจายไปทั่วพื้นที่กรุงวอชิงตันดีซี มีเรื่องเล่าในหลายรูปแบบ แต่ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งสวมชุดกระต่าย และเขาได้ทำการโจมตีเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายด้วยขวานอันคมกริบ
ซึ่งหลายเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นบริเวณสะพานลอยในโคลเชสเตอร์ หรือสะพานลอยทางรถไฟสายใต้ที่ทอดผ่านถนนโคลเชสเตอร์ใกล้กับคลิฟตัน โดยที่สุดแล้วปัจจุบันนี้สะพานลอยโคลเชสเตอร์ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเรียกว่าเป็น “สะพานมนุษย์กระต่าย” ไปแทนซะงั้น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกที่มีรายงานก็คือ ในตอนเย็นของวันที่ 19 ตุลาคม 1970 เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นกับนายร้อยบ๊อบ เบนเน็ตต์ ซึ่งเป็นนักเรียนของกองทัพอากาศสหรัฐและคู่หมั้นของเขา ประมาณเที่ยงคืนขณะที่พวกเขากลับมาจากเกมฟุตบอล บนถนนนิวกินีในเบิร์ค ขณะที่พวกเขานั่งอยู่ในที่นั่งด้านหน้าในรถที่กำลังวิ่งอยู่ พวกเขาสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างข้างนอกหน้าต่างด้านหลังสีขาวๆ ครู่ต่อมาหน้าต่างผู้โดยสารด้านหน้าก็ถูกทุบและปรากฏชายในชุดขาวยืนอยู่ตรงหน้าต่างที่แตกสลาย เบนเน็ตต์รีบหักพวงมาลัยหันรถหลบออกไป จนกระทั่งเหตุการณ์สงบลง พวกเขาก็พบขวานตกอยู่ที่พื้น
เมื่อตำรวจถามหาคำอธิบายของคนร้าย บ๊อบยืนยันว่าเขาได้รับการโจมตีจากคนที่สวมใส่ชุดสูทสีขาวที่มีหูกระต่ายยาว พวกเขาทั้งสองจำได้และเห็นใบหน้าของเขาได้อย่างเห็นได้ชัด แต่ด้วยความมืดมันจึงทำให้พวกเขาจำหน้าตาคนๆนั้นไม่ได้ จากนั้นตำรวจก็พบขวานหลังจากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เบนเน็ตต์รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเขากลับไปวิทยาลัยกองทัพอากาศในทันทีหลังจากนั้น
รายงานการพบเห็นที่สองที่เกิดขึ้นในช่วงเย็นวันที่ 29 ตุลาคม 1970 เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยการก่อสร้าง พอล ฟิลลิป เดินไปยังด้านตะวันตกบนถนนนิวกินี ฟิลลิปกล่าวว่าเขาพบคนที่สวมใส่ในชุดสีเทา, สีดำ, และสีขาวเป็นชุดกระต่ายและอายุประมาณ 20 ปี สูงประมาณ 5 ฟุต 8 นิ้ว (1.73 เมตร) เขาได้ถือขวานที่มีด้ามยาว และตะโกนว่า “ทุกคนที่บุกรุกที่นี่ หากพวกเมิงยังไม่ออกไปจากที่นี่ ข้าจะเอาขวานจามหน้าอกและหัวของพวกเมิงให้เละหมดทุกคน!!” ใครจะอยู่ล่ะ โกยแน่บ
ต่อมาตำรวจของเคาน์ตี้แฟร์ที่เข้ามาสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่สามารถหาหลักฐานเพิ่มเติมได้ ทั้งสองคดีจึงถูกปิดในที่สุดเพราะขาดหลักฐาน แต่ในหลายสัปดาห์ต่อมา ก็ได้เกิดอุบัติเหตุมากกว่า 50 ราย และทุกๆรายก็ติดต่อแจ้งความไปยังตำรวจอ้างว่าได้เห็น “มนุษย์กระต่าย” กันแทบทุกคน
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ตำนานแห่งมนุษย์กระต่ายก็ได้ถูกเล่าในรูปแบบที่ต่างกันออกไป รวมทั้งการอ้างถึงนักโทษคดีร้ายแรงที่ได้หลบหนีออกจากคุกและได้ไปแฝงตัวอยู่ที่นั่น และในทุกๆวันฮัลโลวีนก็มักจะมีผู้คนที่ชื่นชอบเรื่องลึกลับและท้าทายไปลองของกันที่ใต้สะพานแห่งนี้กันเสมอมา โดยที่ในปัจจุบันนี้ ความลึกลับของเจ้ามนุษย์กระต่ายก็ยังไม่ได้รับการคลี่คลายลงแต่อย่างใด