The Smiling Manชายลึกลับกับรอยยิ้มสุดสยองขวัญ -คุณเป็นคนหนึ่งใช่ไหม?
ที่ใช้ชีวิตตอนกลางคืนในขณะที่คนอื่นเขากำลังนอนหลับ คุณเป็นอีกคนหรือเปล่า?
ที่ชอบออกไปเดินเล่นนอกบ้านในยามค่ำคืน และถ้าเป็นแบบนั้น คุณเคยเจอใครบางคน ที่มีท่าทางแปลก ๆ มาคอยเดินตามคุณไปทุกหนทุกแห่งด้วยรอยยิ้มอันน่าสยดสยองกันบ้างไหม? เราจะขอเล่าเรื่องราวน่ากลัวของชายคนหนึ่ง ที่บังเอิญได้ไปพบกับบุคคลลึกลับท่าทางแปลกประหลาด ที่มาพร้อมกับรอยยิ้มอันวิปริต เที่ยวคอยเดินสะกดรอยตามเราจนขวัญผวา ว่าเรื่องนี้มันคืออะไรกันแน่?
เรื่องราวต้นฉบับของเรื่องเล่าโดยชายผู้นี้มีอยู่ว่า
"ห้าปีก่อน ผมอาศัยอยู่ในย่านดาวน์ทาวน์ ที่อยู่ในเมืองใหญ่เมืองหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยความที่ผมเป็นคนที่ชอบใช้ชีวิตในเวลากลางคืน มันก็เลยทำให้ผมค่อนข้างจะมีปัญหากับเพื่อนร่วมห้อง ที่ไม่ยอมใช้ชีวิตในเวลาเดียวกับผม มัวแต่นอนอยู่นั่น มันก็เลยทำให้ผมต้องต้องฆ่าเวลาด้วยการเดินไปมา คิดอะไรเล่นอยู่คนเดียวอยู่ข้างนอก สี่ปีแล้วที่ผมต้องใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ เดินคนเดียวตอนกลางคืน เดินจนไม่รู้สึกกลัวอะไรแล้ว
ซึ่งผมเองก็เคยอำเพื่อนว่าผมเป็นพวกค้ายาแห่งราตรีกาล แต่สุดท้าย ผมก็เฉลยไปว่ามันไม่มีอะไร วันนั้นเป็นวันพุธ ที่ไหนสักแห่งในช่วงย่ำรุ่ง ผมเดินอยู่ใกล้ ๆ ลานจอดรถของสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากอพาร์ทเมนท์ของผมสักเท่าไหร่ มันเป็นคืนที่ค่อนข้างจะเงียบเชียบ ทั้ง ๆ ที่เป็นกลางสัปดาห์แท้ ๆ มีรถติดอยู่บนถนนนิดหน่อย แต่บนทางเท้านี่ไม่มีใครเลย ที่จอดรถตอนนี้ก็ไม่มีใครมาจอดสักคัน
ซึ่งผมเองก็เคยอำเพื่อนว่าผมเป็นพวกค้ายาแห่งราตรีกาล แต่สุดท้าย ผมก็เฉลยไปว่ามันไม่มีอะไร วันนั้นเป็นวันพุธ ที่ไหนสักแห่งในช่วงย่ำรุ่ง ผมเดินอยู่ใกล้ ๆ ลานจอดรถของสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากอพาร์ทเมนท์ของผมสักเท่าไหร่ มันเป็นคืนที่ค่อนข้างจะเงียบเชียบ ทั้ง ๆ ที่เป็นกลางสัปดาห์แท้ ๆ มีรถติดอยู่บนถนนนิดหน่อย แต่บนทางเท้านี่ไม่มีใครเลย ที่จอดรถตอนนี้ก็ไม่มีใครมาจอดสักคัน
ผมเดินลงมาตามทางเดิน เพื่อจะย้อนกลับไปยังอพาร์ทเมนท์ของผม ตอนนั้น ผมสังเกตเห็นชายคนหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปตรงสุดถนน เงาตะคุ่ม ๆ ของชายคนนี้ดูราวกับว่าเขากำลังเต้นรำท่าแปลก ๆ อยู่ อาจจะเต้นจังหวะวอลทซ์ซะกระมั้ง
แต่ผมรู้สึกว่า เขากำลังจะค่อย ๆ ขยับตรงมาหาผมทีละก้าวด้วยท่าทางแปลก ๆ แบบนั้น
แต่ผมรู้สึกว่า เขากำลังจะค่อย ๆ ขยับตรงมาหาผมทีละก้าวด้วยท่าทางแปลก ๆ แบบนั้น
ท่าทางเขาน่าจะเมา ผมก็เลยกะว่าจะเขยิบตัวเพื่อหลีกทางให้เขาผ่านไปก่อนจะดีกว่า จนเขาก้าวเข้ามาใกล้ ๆ ผมถึงเริ่มสังเกตเห็น ว่าเขาขยับตัวด้วยท่าทางสวยงามมาก ๆ ชายคนนี้เป็นคนรูปร่างผอมสูง สวมเสื้อสูทเก่า ๆ ตอนนี้เขาค่อย ๆ เต้นรำขยับใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนผมเห็นหน้าเขาชัดเจนแล้ว ดวงตาของเขาเบิกกว้างดูน่ากลัว เชิดหน้าแหงนมองไปบนท้องฟ้า ปากของเขายิ้มออกกว้างแทบจะฉีกถึงหู ถึงตรงนี้ผมก็เลยตัดสินใจข้ามถนนไปอีกฝั่ง ก่อนที่เขาจะขยับตัวเข้ามาใกล้ไปกว่านี้
ผมละสายตาจากชายคนนี้เพื่อจะได้ข้ามถนนไปก่อน จนเมื่อถึงฝั่งตรงข้ามแล้วผมจึงหันมองกลับมา แต่แล้วผมก็ต้องชะงักไป เพราะชายคนนั้นก็หยุดเต้นรำเช่นกัน ตอนนี้เขายืนขาเดียวอยู่ตรงถนน หันหน้ามาทางผมทั้ง ๆ ที่ใบหน้าก็ยังคงเชิดขึ้นไปบนฟ้าอย่างนั้น และที่ปากของเขาก็ยังคงแสยะยิ้มอย่างน่ากลัวอยู่เช่นเดิม ตอนนี้ผมชักจะกลัวจริง ๆ เสียแล้ว ผมเริ่มเดินต่อไป สายตาก็มองเห็นว่าเขาไม่ขยับไปไหน จนห่างออกมาได้ระยะหนึ่ง ผมจึงบ่ายหน้าออกจากชายคนนี้เพื่อจะได้เดินต่อ ทางเดินข้างหน้าของผมตอนนี้ไม่มีใครแล้ว แต่ผมก็ยังคงระแวงอยู่ดี ผมเลยหันกลับไปทางทิศที่เขายืนอยู่อีกครั้ง กำลังจะโล่งใจอยู่แล้วเชียว ถ้าผมไม่เห็นว่าตอนนี้เขาได้มาอยู่ที่ฝั่งเดียวกับผมแล้ว นี่เขาข้ามฝั่งมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย แล้วยังจะมาเต้นรำท่าแปลก ๆ แบบนั้นอีก ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ห่างจากผมขนาดไหน แต่ที่แน่ ๆ เขากำลังจ้องมองมาที่ผม
ผมค่อย ๆ หันหน้าหลบออกมา จนเวลาผ่านไปประมาณสิบวินาที ผมก็รู้สึกได้ว่าตอนนี้เขาขยับตัวเข้ามาหาผม ด้วยท่าเต้นรำแบบนั้นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ผมตกใจ ตอนนี้เขากำลังขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก ด้วยสเต็ปท่าเต้นพิลึก ๆ แบบนั้น ถ้าเป็นตัวการ์ตูนนี่ ก็น่าจะเรียกว่าเสต็ปเทพได้เหมือนกัน
ผมค่อย ๆ หันหน้าหลบออกมา จนเวลาผ่านไปประมาณสิบวินาที ผมก็รู้สึกได้ว่าตอนนี้เขาขยับตัวเข้ามาหาผม ด้วยท่าเต้นรำแบบนั้นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ผมตกใจ ตอนนี้เขากำลังขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก ด้วยสเต็ปท่าเต้นพิลึก ๆ แบบนั้น ถ้าเป็นตัวการ์ตูนนี่ ก็น่าจะเรียกว่าเสต็ปเทพได้เหมือนกัน
ผมอยากจะบอกให้รู้ว่าตอนนี้ ผมนี่วิ่งหนีสุดแรงเกิด นี่ถ้าผมพกสเปรย์พริกไทย หรือติดมือถือมาสักอย่างนะ ก็ผมดันไม่ได้พกมาสักอย่างเลยนี่สิ ผมเลยลองหยุดวิ่งดู ปรากฎว่าชายหน้ายิ้มคนนั้นก็หยุดเหมือนกัน ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากผมประมาณหนึ่งช่วงรถยนต์ และยังคงยืนเชิดหน้าแสยะยิ้มปีศาจใส่ผมอยู่แบบนั้น พอนึกขึ้นได้ ว่าผมควรจะพูดอะไร
ออกมาบ้าง
ผมก็เลยตัดสินใจจะตะโกนถามชายคนนี้ไปว่า
“นายต้องการอะไรกันแน่?” ซึ่งก็กะว่าจะใช้น้ำเสียงเข้ม ๆ ให้รู้ว่าตอนนี้ผมโกรธแล้วนะ จะได้เกรงใจกันบ้าง แต่พอเอาเข้าจริง ๆ เสียงที่ผมพูดออกมานั้นกลายเป็นเสียงครางยังกะแมว ด้วยความเคารพเลยครับ ผมว่าไม่มีใครรู้หรอกว่าตอนนี้ผมกลัวขนาดไหน ก็ตอนนี้ใครจะได้ยินเสียงของผม นอกจากผมได้ยินคนเดียวล่ะ นี่ยิ่งทำให้ผมกลัวหนักขึ้นไปอีก แถมชายคนนั้นก็ไม่ได้แสดงทีท่าอะไรนอกจากยืนนิ่ง ๆ
ผมก็เลยตัดสินใจจะตะโกนถามชายคนนี้ไปว่า
“นายต้องการอะไรกันแน่?” ซึ่งก็กะว่าจะใช้น้ำเสียงเข้ม ๆ ให้รู้ว่าตอนนี้ผมโกรธแล้วนะ จะได้เกรงใจกันบ้าง แต่พอเอาเข้าจริง ๆ เสียงที่ผมพูดออกมานั้นกลายเป็นเสียงครางยังกะแมว ด้วยความเคารพเลยครับ ผมว่าไม่มีใครรู้หรอกว่าตอนนี้ผมกลัวขนาดไหน ก็ตอนนี้ใครจะได้ยินเสียงของผม นอกจากผมได้ยินคนเดียวล่ะ นี่ยิ่งทำให้ผมกลัวหนักขึ้นไปอีก แถมชายคนนั้นก็ไม่ได้แสดงทีท่าอะไรนอกจากยืนนิ่ง ๆ
แล้วยิ้มอยู่เหมือนเดิม และหลังจากความผิดพลาดของผมผ่านไปสักพัก เขาก็หมุนตัวอย่างช้า ๆ จากนั้นก็เริ่มขยับตัวทำสเต็ปเต้นสไลด์เท้าเดินจากไป แต่ก็นั่นแหละ ตอนนี้ผมไม่กล้าจะคลาดสายตาจากหมอนี่เสียแล้ว ผมเลยยืนมองเขาค่อย ๆ จากไปไกลเรื่อย ๆ จนไกลแทบจะลับสายตา แล้วอยู่ดี ๆ ผมก็รู้สึกได้บางอย่าง ว่าตอนนี้เขาหยุดขยับตัว ใช่.. เขาหยุดเต้น แต่คราวนี้มันทำให้ผมขนลุกซู่ไปทั้งตัวอีกครั้ง นั่นก็เพราะว่า เงาห่าง ๆ ของเขาตอนนี้ มันค่อย ๆ ดูใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ…
ใช่แล้ว เขากำลังใกล้เข้ามา ตอนนี้เขาวิ่งเข้ามานั่นเอง ผมจึงตัดสินใจรีบเผ่นทันที
ผมวิ่งหนีมาอย่างบ้าคลั่ง จนหลุดออกไปนอกทางเดินตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พอได้สติ ผมก็รีบเดินกลับมายังจุดที่พอจะเห็นรถราวิ่งอยู่บ้าง พอลองหันกลับไปมองดูตอนนี้ก็ไม่มีใครแล้ว ผมจึงมุ่งหน้ากลับที่พัก แต่ก็ยังไม่วายที่จะหันกลับไปมองข้างหลังตัวเองอยู่ตลอด บอกตรง ๆ เลยครับ ผมกลัวว่าจะเห็นรอยยิ้มบ้า ๆ นั่นอีก แต่ยังไงตอนนี้มันก็จากไปแล้ว ผมยังอยู่ที่เมืองนี้มาอีก 6 เดือน ซึ่งหลังจากคืนนั้น ผมก็ไม่เคยคิดจะออกไปเดินเล่นแบบนั้นอีกเลย นั่นก็เพราะว่าข้างนอกนั้นมันมีอะไรบางอย่าง ใช่!! ใบหน้าแสยะยิ้มของเจ้าหมอนั่น มันทำเอาผมหลอนเสียเหลือเกิน เจ้าหมอนั่นมันคงไม่ใช่คนเมา แต่มันต้องเป็นคนบ้าแน่ ๆ และที่สำคัญก็คือ มันน่ากลัวมาก ๆ
"เดอะสมายลิ่งแมน" หรือ
"ชายใบหน้าแสยะยิ้ม"
เป็นหนึ่งในเรื่องเล่าสยองขวัญที่พูดถึงชายลึกลับตัวสูงไม่พูด
ไม่จา คอยเดินสะกดรอยตามเหยื่อด้วยรอยยิ้มอันแสน
จะน่ากลัว โดยเรื่องนี้ถูกนำเสนอครั้งแรกโดยสมาชิกของเวบไซต์เรดดิทชื่อ “blue_tidal” ซึ่งอ้างว่า เรื่องนี้ก็คือเรื่องที่เขาเคยพบเจอมาจริง ๆ
ในช่วงที่เขาอาศัยอยู่ในเมืองซีแอทเทิล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
"ชายใบหน้าแสยะยิ้ม"
เป็นหนึ่งในเรื่องเล่าสยองขวัญที่พูดถึงชายลึกลับตัวสูงไม่พูด
ไม่จา คอยเดินสะกดรอยตามเหยื่อด้วยรอยยิ้มอันแสน
จะน่ากลัว โดยเรื่องนี้ถูกนำเสนอครั้งแรกโดยสมาชิกของเวบไซต์เรดดิทชื่อ “blue_tidal” ซึ่งอ้างว่า เรื่องนี้ก็คือเรื่องที่เขาเคยพบเจอมาจริง ๆ
ในช่วงที่เขาอาศัยอยู่ในเมืองซีแอทเทิล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยสมาชิกผู้นี้ได้โพสต์เรื่องเดอะสมายลิงแมนนี้ไว้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 2012 ในหมวด "/r/LetsNotMeet" ซึ่งเป็นหมวดเกี่ยวกับการเล่าเรื่องน่ากลัวที่พบในชีวิตจริงของสมาชิก โดยได้เปลี่ยนชื่อเมืองและรัฐที่เขาเคยอาศัยอยู่เป็นคำว่า เมืองใหญ่เมืองหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกาแทน
เรื่องราวนี้มีผู้โหวตให้คะแนนมากถึง 1,300 โหวต และมีสมาชิกร่วมให้ความเห็นกันกว่า 170 ความเห็น
เรื่องราวนี้มีผู้โหวตให้คะแนนมากถึง 1,300 โหวต และมีสมาชิกร่วมให้ความเห็นกันกว่า 170 ความเห็น
ต่อมาในวันที่ 23 เมษายน
ปีเดียวกัน บลูไทดัลก็ได้นำเรื่องนี้ไปโพสต์อีกครั้งไว้ที่หมวด "/r/nosleep" และคราวนี้เขาได้รับการโหวตมากกว่า 2,400 โหวต และความเห็นมากกว่า 350 ความเห็น ก่อนที่โพสต์ดังกล่าวจะถูกปิดไป
ปีเดียวกัน บลูไทดัลก็ได้นำเรื่องนี้ไปโพสต์อีกครั้งไว้ที่หมวด "/r/nosleep" และคราวนี้เขาได้รับการโหวตมากกว่า 2,400 โหวต และความเห็นมากกว่า 350 ความเห็น ก่อนที่โพสต์ดังกล่าวจะถูกปิดไป
และในวันที่ 18 พฤศจิกายน ก็ได้เกิดซับเรดดิทหมวด "/r/TheSmileingMan" ขึ้นมา จากการสร้างของสมาชิกชื่อ "HeckToTheYeah65" เพื่อเอาไว้ใช้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวนี้โดยเฉพาะ
ในช่วงวันที่ 26 พฤศจิกายน
บลูไทดัลก็ได้เปิดหัวข้อ
“ask me anything” เพื่อเปิดให้ผู้สนใจเข้ามาสอบถามเพิ่มเติม ที่นี่เขาก็ได้ยืนยันว่า
เรื่องราวนี้มันได้เกิดขึ้นมาจริง ๆ ในตอนดึกคืนวันหนึ่งที่ซีแอทเทิล วอชิงตัน
บลูไทดัลก็ได้เปิดหัวข้อ
“ask me anything” เพื่อเปิดให้ผู้สนใจเข้ามาสอบถามเพิ่มเติม ที่นี่เขาก็ได้ยืนยันว่า
เรื่องราวนี้มันได้เกิดขึ้นมาจริง ๆ ในตอนดึกคืนวันหนึ่งที่ซีแอทเทิล วอชิงตัน
ในวันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 มีสมาชิกของเวบเรดดิทชื่อ "Youdonotsay"
(ยู้ดฟอนอทเซย์) ได้โพสต์คำถามไว้ที่หมวด "/r/Askreddit" ว่า
“คุณเคยเจอหรือเห็นอะไรที่น่ากลัวสุด ๆ บ้างไหม ?” ต่อมามีสมาชิกชื่อ "danrennt98"
(ยู้ดฟอนอทเซย์) ได้โพสต์คำถามไว้ที่หมวด "/r/Askreddit" ว่า
“คุณเคยเจอหรือเห็นอะไรที่น่ากลัวสุด ๆ บ้างไหม ?” ต่อมามีสมาชิกชื่อ "danrennt98"
เข้ามาตอบโพสต์ โดยอ้างอิงถึงเรื่องราวต้นฉบับของบลูไทดัล
วันที่ 5 สิงหาคม สมาชิกชื่อ "Paper-Snow-A-GHOST" ก็ได้โพสต์ในหมวดเดียวกันนี้อีกครั้งเพื่อถามสมาชิกท่านอื่นว่า “คุณเคยได้อ่านเจอเรื่องอะไรในเรดดิท ที่จริง ๆ แล้ว เขาน่าจะพูดถึงคุณบ้างไหม ?”
และได้ก็มีสมาชิกชื่อ "ILL_Show_Myself_Out" เข้ามาตอบว่า ก็มีเรื่องเดอะสมายลิ่งแมนนี่แหละ ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเมาแล้วเดินเต้นไปยิ้มไป และยังเที่ยวแกล้งเดินสะกดรอยตามชายคนหนึ่งให้ตกใจกลัว โดยบอกอีกว่า เขาทำไปเพราะแค่นึกสนุก เดินตามหนุ่มโชคร้ายคนนั้นไป แถมยังแสยะยิ้มหลอกให้กลัวตลอดทางเลย ซึ่งในโพสต์นี้ก็มีบางคนออกมาบอกว่า เขาก็เคยแกล้งคนแบบนั้นเหมือนกัน
ไม่แน่ชัดว่าสมาชิกผู้นี้ จะแกล้งอำว่าตัวเองเป็นสมายลิงแมนคนนั้นจริง ๆ หรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ
ในวันที่ 23 กรกฏาคม ค.ศ. 2013 ยูทูเบอร์ชื่อ ไมเคิล อีแวนส์ ได้อัพโหลดหนังสั้นของเขาไว้ในชื่อ 2AM ซึ่งเนื้อเรื่องนั้นก็คือ เดอะสมายลิ่งแมนของบลูไทดัลนั่นเอง และในวันนั้นไมเคิลก็ได้นำคลิปนี้ไปโพสต์ไว้ที่หมวด "/r/videos" ของเวบไซต์เรดดิทด้วย ถัดมาอีกสามสัปดาห์ คลิปหนังสั้นเรื่องนี้ก็มีผู้เข้าชมกว่า 1.65 ล้านวิว
และปัจจุบันคลิปนี้ก็สามารถทำยอดเข้าชมได้ถึงเกือบห้าล้านวิวแล้ว โดยบลูไทดัลเจ้าของเรื่องก็ออกมาแสดงความเห็นว่าชอบมากอีกด้วย ไม่ว่าเรื่องราวเดอะสมายลิ่งแมนนี้ จะมีที่มาเป็นเรื่องจริงแบบไหนก็ตาม ตอนนี้มันก็ได้กลายเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าน่ากลัวระดับคลาสสิคบนเวบไซต์ครีบปี้พาสต้าไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน...