5 เรื่องสะเทือนขวัญของผู้ที่ “ถูกฝังทั้งเป็น”

Custom Search
พบกับเรื่องจริงชวนสะพรึง กับ 5 เหตุการณ์สยองของการถูกฝังทั้งเป็นที่อ่านจบแล้วบอกได้คำเดียวว่าหลอนจนนอนไม่หลับกันเลยทีเดียว บอกเลยว่าโชคดีแค่ไหนที่ไม่ใช่เรา
1.ฝังพี่ทำไมที่รัก?
ในปี ค.ศ.1993 มีชายชาวแอฟริกาใต้นามว่า “Sipho William Mdletshe” และคู่หมั้นของเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ คู่หมั้นของซิโฟรอดชีวิต แต่ตัวของซิโฟได้รับบาดเจ็บสาหัสจนหมดสติ ด้วยความเข้าใจผิด คู่หมั้นของซิโฟเลยเก็บศพของเขาในโลงศพโลหะ สองวันผ่านไป ซิโฟฟื้นขึ้นมาจากอาการโคม่า ด้วยความตกใจเขาจึงร้องขอความช่วยเหลือ โชคยังดีที่มีคนได้ยินเสียงจึงรีบรุดเข้าไปช่วยได้ทันเวลา เมื่อซิโฟกลับไปหาคู่หมั้นของเขา คู่หมั้นของเธอถึงกับตกใจเพราะนึกว่าซิโฟเป็นซอมบี้!
2.เรียกค่าไถ่
ในปี ค.ศ.1987 สื่อดังในรัฐอิลลินอยส์ได้ตีข่าวการหายสาบสูญไปของชายหนุ่มที่ชื่อ “Stephen Mall” โดยสื่อรายงานว่านายมอลล์ถูกลักพาตัวและถูกจับฝังดินทั้งเป็นโดยสองคู่รักใจโหดอย่าง “Danny Edwards” และ “Nancy Rish” ที่ได้วางแผนนำตัวนายมอลล์ไปซ่อนใต้ดินในหลุมฝังศพที่ถูกดัดแปลงให้มีช่องสำหรับถ่ายเทอากาศและน้ำ หลุมศพดังกล่าวถูกฝังใต้ดิน
ไว้ลึกราว 1 เมตร เพื่อเรียกค่าไถ่จำนวน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หลังจากที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ร้ายมาดำเนินคดีได้ ตำรวจได้เดินทางมายังจุดที่ฝั่งร่างของนายมอลล์ทั้งเป็น แต่ทุกอย่างมันสายไปเสียแล้ว เพราะเขาเสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจ สุดท้ายสองผู้ต้องหาถูกตัดสินความผิดด้วยการจำคุก 27 ปี
3. เทรนด์โลกโซเชียลสุดสยองจากรัสเซีย
กล่าวกันว่าในโลกโซเชียลของรัสเซีย เคยมีเทรนด์การฝังตัวเองทั้งเป็นที่น่าสะพรึง และที่สำคัญคือมีคนทำตามเสียด้วย ในปี ค.ศ.2011 มีชายชาวรัสเซียรายหนึ่งที่ต้องการจบชีวิตตัวเองด้วยการฝังตัวเองให้ตายทั้งเป็น เพราะเชื่อว่านั่นคือการนำมาซึ่งความสงบสุขที่แท้จริง ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ จึงทำให้แผนการสุดสะพรึงของชายชาวรัสเซียรายนี้เป็นผลสำเร็จ โดยโลงศพที่ว่าได้รับการดัดแปลงมาจากท่อปรับอากาศขนาดใหญ่ ด้วยความปรารถนาดีของเพื่อน ๆ จึงมอบน้ำและโทรศัพท์เอาไว้ให้กับชายรัสเซียเจ้าของไอเดียสุดสะพรึงนี้ ตอนแรกหนึ่งในกลุ่มมิตรสหายทักท้วงถึงแผนการสุดสะพรึงนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล
ในวันรุ่งขึ้น เมื่อเพื่อน ๆ กลับมาดูชายชาวรัสเซียคนนั้น ปรากฏว่าเขาเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจไปเสียแล้ว!
4.ช่วยไม่ทัน
5.ในปี ค.ศ.2015 ที่ประเทศฮอนดูรัส “Neysi Perez” วัย 16 ปี เกิดหมดสติเพราะได้ยินเสียงปืนดัง ก่อนหน้านั้นไม่มีใครทราบว่าเธอป่วยเป็นโรคแพนิค ทีมแพทย์ได้วินิฉัยว่าเธอเสียชีวิตแล้ว และให้นำศพเธอไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ในคืนหนึ่งมีคนได้ยินเสียงกรีดร้องที่หลุมฝังศพของเธอ ในวันรุ่งขึ้นชาวบ้านจึงช่วยกันทำลายโกดังเก็บร่างของเธอที่ก่อด้วยอิฐแต่เมื่อเปิดโลงศพแล้ว พบว่าเปเรซได้เสียชีวิตมาได้สักพักเนื่องจากขาดอากาศหายใจ
5.เตือนแล้วไม่ฟัง
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1893 เกษตรกรนามว่า “Charles Boger” และภรรยาอาศัยอยู่ในเมืองที่เงียบสงบของรัฐเพนซิลเวเนีย อยู่มาวันหนึ่งภรรยาของโบเกอร์เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ด้วยความเห็นจากแพทย์ได้ระบุว่าเธอเสียชีวิตและควรประกอบพิธีกรรมทางศาสนาทันที ก่อนหน้านั้นเพื่อน ๆ ของโบเกอร์เคยเตือนเขาว่าภรรยาของเขาป่วยเป็นโรคฮิสทีเรีย กล่าวคือเธอมักหมดสติอยู่เป็นประจำจนใครหลายคนคิดว่าเธอเสียชีวิต
ด้วยความเอะใจ โบเกอร์เลยรีบรุดหน้าไปที่หลุมฝังศพของภรรยา หลังจากเปิดโลงศพภรรยาโบเกอร์ถึงกับผงะ เพราะพบว่าศพภรรยาของเขามีสภาพทุรนทุราย เล็บของเธอหลุดหายเนื่องจากพยายามดิ้นรนออกจากโลง ....
ที่ฝาโลงด้านในเต็มไปด้วยเลือดและรอยขีดข่วน ดวงตาบนใบหน้าของเธอเหลือกโพลน ลิ้นจุกปาก คาดกันว่าเธอต้องพบกับความตายที่แสนทรมานก่อนสิ้นใจ