ย้อนรอย..สุดสยองเรื่องราว ของ เด็กชาย อมารจี ซาดา (Amarjeet Sada)ฆาตกรต่อเนื่องอายุ 8ขวบ!!
เรื่องราวของ เด็กชาย อมารจี ซาดา (Amarjeet Sada)
จริงๆฆาตกรที่เป็นเด็กอายุน้อย ก็มีแต่อาจจะไม่ได้เยอะเท่ากับฆาตกรที่เป็นผู้ใหญ่ และฆาตกรในเด็กปกติ จะเป็นฆาตกร ปกติธรรมดาแบบฆ่าเด็กด้วยกัน One by One แต่ถ้าเป็น คดีฆาตกรต่อเนื่องเด็ก จริงๆแล้ว มีแค่ไม่กี่คนหรอก เช่น แม่รี่เบลนั้นฆ่าเด็ก2คนที่ส่วนฆาตกรเด็กที่เหลือนั้นอายุ10ปีขึ้นแทบทั้งหมด
คือเป็นช่วงวัยรุ่นแล้วนั้นเอง..หรือมีฆาตกรต่อเนื่องบางคนที่เริ่มฆ่าตั้งแต่เด็กจนโต งงไหมนี้ห้ามงงนะ😄😄😄
เอาเป็นว่า ใครก็ตามที่ได้ไปเห็นเด็กๆ เล่นกันที่สนามเด็กเล่นแล้วจะรู้ได้เลยว่า เด็กเองก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่โหดร้ายเหมือนกัน
แม้แต่เด็กที่อายุน้อยมากๆ ก็ยังมีการพบว่า มีหลายคนที่มีอาการเข้าข่ายต่อต้านสังคมซึ่งนำไปสู่การก่ออาชญกรรมที่รุนแรงขึ้น เช่น การทรมานสัตว์ และในบางครั้งก็ถึงขั้นลงมือสังหารคน
อธิบายมาสะเยอะเลย สรุปว่าจริงๆ แล้วฆาตกรต่อเนื่องที่ยังอยู่ในวัยเด็กเป็นกรณีที่หาได้ยากมากและนี้คือเรื่องราวของ...ดช. อมารจี ซาดา
ฆาตกรต่อเนื่องที่อายุน้อยที่สุดที่มีการบันทึกไว้คือ อมารจี ซาดา (Amarjeet Sada) ชาวรัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
ปล. จริงๆเรื่องราวของ amagi สาด้าเด็กคนนี้เคยลงโพสต์ไว้เมื่อปี 2019 ก็ถือว่านานพอสมควรแต่เอามารีรันใหม่ละกันเผื่อเพื่อนๆที่เข้าใหม่หรือใครที่ไม่ได้อ่านโพสต์นั้นนะคะจะได้ไม่ต้องย้อนกลับไปหา
อมารจี ซาดา (Amarjeet Sada) เด็กวัย 8 ปี จากภาพถ่ายเขาอาจจะไม่แตกต่างจากเด็กคนอื่น ๆ เบื้องหลังดวงตาไร้เดียงสา แต่แฝงด้วยปีศาจร้ายภายใน
เรามาดูแผนการอันแยบยนของเขากันย้อนกลับไปเมื่อปี 2007 ในตอนนั้น ซาดา อายุเพียงแค่ 8 ขวบที่กำลังอยู่ในชั้นประถม แม่ของเขาต้องทำงานหนักทุกวันจึงนำน้องสาวไปที่โรงเรียนเด็กใกล้ๆชื่อKushbooซึ่งเป็นเพื่อนบ้านอยู่ในหมูบ้านMusahari ซึ่งเป็นโรงเรียนเดียวกับที่ซาดาเรียน
เขาฉวยโอกาสตอนที่คนกำลังยุ่งเอาน้องสาววัย 6 เดือนที่นอนหลับสนิทไป
เขาอุ้มน้องสาววิ่งไปในที่ห่างไกลคน จากนั้นใช้ก้อนหินทุบตีที่หัวของน้องสาวจนถึงแก่ความตาย จากนั้นก็ฝังศพของน้องโดยการเอาใบไม้คลุมไว้ที่นั้น
และเมื่อแม่เขาพบว่าลูกสาวหายจึงตกใจตามหาและAmarjeet อยู่ในโรงเรียนเดียวกันเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ต้องสงสัย
ในตอนที่ตำรวจจับกุบซาดา เขาไม่มีท่าทีตกใจเลย สายตาสงบนั่งมาก พร้อมกับอธิบายให้ตำรวจฟัง สาเหตุที่เลือกอุ้มน้องสาวไปในป่า จากนั้นเอาก้อนหินทุบตี เป็นเพราะว่ากลัวว่าเสียงร้องไห้ของน้องสาวจะทำให้เพื่อนบ้านตื่นกลัวและรำคาญใจ
เมื่อซาดาเห็นตำรวจเดินมาจับกุมตน ก็รีบสารภาพว่าตนเป็นคนก่อเหตุเอง และเหตุผลที่ฆ่านั้นคือไม่มีเหตุผล เน้นแค่ให้ตายอย่างเดียว!
และสิ่งที่ทำให้ตำรวจถึงกับตกตะลึงนั้นคือ เขายังบอกว่าเมื่อปีก่อน เขาได้ฆ่าทารกชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องวัย 9 เดือนด้วย และได้ฆ่าน้องสาววัย 8 เดือนด้วย ทั้งหมดถูกตีจนเสียชีวิตด้วยก้อนหิน
ในตอนนั้นครอบครัวไม่ได้แจ้งตำรวจ แก้ปัญหาเองภายในครอบครัว เพราะคิดว่าเป็นอุบัติเหตุจึงปกปัองเขา
จนกระทั่งเกิดเรื่องครั้งนี้ ทำให้พ่อแม่เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของลูกชายตนเอง
หลังจากการสืบสวนในเชิงลึกอัยการพิจารณาแล้วว่า ซาดา มีอาการป่วยทางจิตและจิตแพทย์ Shamshad Hussain ได้พิจารณาว่าเขามี "บุคลิกซาดิสต์"
อย่างไรก็ตามเนื่องจากซาดาอายุไม่ครบ 18 ปี ในช่วงเกิดอาชญากรรม ทำให้ไม่สามารถถูกตัดสินจำคุกหรือประหารเสียชีวิตได้ ตามกฎหมายของอินเดีย
ทำให้มีแต่ซาดาเท่านั้นที่สามารถถูกคุมขังในสถาบันเด็กเล็กไว้ จนกว่าจะถึงวัยผู้ใหญ่
หลังจากเหตุการณ์ผู้คนในอินเดียต่างโกรธมากหลายคนเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่พาเขาไปที่โรงพยาบาลจิตเวชเพื่อ รักษาสภาพจิตและะเปลี่ยนชื่อของเขาหลังจากการตายของเด็กที่เขาฆ่าเพื่อป้องกันไม่ให้เขาฆ่าชีวิตที่ไร้เดียงสามากขึ้น
เมื่อนักข่าวถามตำรวจถึงสภาพจิตใจของเขา ตำรวจก็ตอบเพียงว่า
"เขาไม่ค่อยพูดแต่ยิ้มเยอะมาก และชอบขอขนมปังกรอบกิน"