บทความที่ได้รับความนิยม

วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ไขปริศนาลึกลับ ต้นกำเนิด “ตำราวอยนิช” หนังสือเขียนด้วยรหัสลึกลับที่สุดในโลกได้แล้ว


ไขปริศนาลึกลับ ต้นกำเนิด “ตำราวอยนิช” หนังสือเขียนด้วยรหัสลึกลับที่สุดในโลกได้แล้ว

วันนี้เราก็จะมานำเสนอเกี่ยวกับตำราปริศนาลึกลับของโลกที่ชื่อว่าตำราวอยนิช  

ซึ่งบางคนไม่เชื่อก็อาจจะมองว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อตำราของคนสติเฟืองเขียนเอาไว้บันทึกเอาไว้

เหมือนกับพวกดาวน์ซินโดรมหรือพวกออจิสติกที่มีความคิดแปลกประหลาดเขียนตำรานี้เอาไว้นั่นแหละเพราะฉะนั้นเราก็ลองมาพิจารณาดูว่าตำราเนี่ยมันจะลึกลับซับซ้อนอย่างไรก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนนะครับ


แม้แต่เอฟบีไอและนักถอดรหัสอัจฉริยะอย่างอลัน ทัวริง ยังไม่สามารถจะไขปริศนาของตำราโบราณนี้ได้
ตำราวอยนิช (Voynich manuscript) หนังสือโบราณจากยุคกลางของยุโรป ซึ่งเขียนด้วยรหัสลึกลับที่ไม่มีนักภาษาศาสตร์หรือนักคณิตศาสตร์คนใดจะแปลความหมายออกได้มานานกว่า 600 ปี ได้รับการไขปริศนาในเรื่องแหล่งที่มาและตัวตนของผู้เขียน ทั้งยังทราบถึงภาษาโบราณที่ใช้ในการเขียนด้วย

ดร. เจอราร์ด เชสเชียร์ นักวิจัยด้านภาษาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบริสตอลของสหราชอาณาจักร เผยว่าสามารถไขปริศนาของตำราวอยนิชได้ หลังจากลงมือศึกษาต้นฉบับโดยใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น โดยเขาเลือกใช้วิธีวิเคราะห์ทางภาษาศาสตร์แบบใหม่ และได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาดังกล่าวลงในวารสารวิชาการ Romance Studies ฉบับล่าสุด


ก่อนหน้านี้บรรดาผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรสำคัญต่าง ๆ ทั่วโลก แม้แต่เอฟบีไอและนักถอดรหัสอัจฉริยะอย่างศาสตราจารย์ อลัน ทัวริง ก็ไม่สามารถจะไขปริศนาของตำราโบราณนี้ได้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าตำราวอยนิชอาจเป็นเพียงของปลอมที่ทำขึ้นเองโดยนายวิลฟริด เอ็ม. วอยนิช พ่อค้าและนักสะสมของโบราณชาวโปแลนด์ ซึ่งเป็นผู้ค้นพบหนังสือเล่มนี้เมื่อปี 1912

Voynich manuscriptที่มาของภาพ,PA
คำบรรยายภาพ,ดร. เชสเชียร์ เชื่อว่าตำราวอยนิชเขียนขึ้นโดยใช้ภาษาในกลุ่มโรมานซ์โบราณ (Proto-Romance)
อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจหาอายุด้วยคาร์บอนกัมมันตรังสีพบว่า ตำราวอยนิชนั้นเป็นของเก่าที่ถูกเขียนขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 15 และในปีที่แล้ว (2018) ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอัลเบอร์ทาของแคนาดา ได้พยายามใช้โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอถอดรหัสตำราวอยนิช จนพบว่าตำรานี้ถูกเขียนขึ้นด้วยภาษาที่มีความคล้ายคลึงกับภาษาฮีบรูของชาวยิวเป็นอย่างมาก

ผลการศึกษาล่าสุดของดร. เชสเชียร์ชี้ว่า ตำราวอยนิชนั้นเป็นหนังสือรวบรวมความรู้และแนวปฏิบัติเรื่องสุขภาพของสตรี ซึ่งบรรดาแม่ชีคณะดอมินิกันได้รวบรวมขึ้น เพื่อใช้เป็นตำราอ้างอิงในราชสำนักฝ่ายในของพระนางมาเรียแห่งคาสตีล (Maria of Castile) ราชินีแห่งแคว้นอารากอนซึ่งปัจจุบันคือส่วนหนึ่งของประเทศสเปน เนื้อหาบางส่วนกล่าวถึงการใช้สมุนไพร การอาบน้ำชำระร่างกาย สรีระของสตรี และโหราศาสตร์


ปัจจุบันตำราวอยนิชถูกเก็บรักษาไว้ที่ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยเยลในสหรัฐฯ
ดร. เชสเชียร์ยังระบุว่า ภาษาที่ใช้ในการเขียนหนังสือซึ่งถือว่ามีความลึกลับที่สุดเล่มหนึ่งของโลกนี้ เป็นภาษาเก่าแก่ที่สูญหายไปแล้วภาษาหนึ่งในกลุ่มภาษาโรมานซ์โบราณ (Proto-Romance) ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของภาษาสเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส อิตาเลียน โรมาเนียน คาตาลัน และกาลิเซียน ในปัจจุบัน

"ภาษาโบราณนี้ใช้กันทั่วไปในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนช่วงยุคกลาง แต่เป็นภาษาพูด ไม่ใช่ภาษาเขียนของทางการอย่างภาษาละติน ทำให้มันสูญหายและตายไปในที่สุด" ดร. เชสเชียร์กล่าว "ตำรานี้ดูเหมือนเขียนด้วยรหัสลับ เพราะใช้สัญลักษณ์หลายแบบทั้งที่เราคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยมาเป็นตัวพยัญชนะและสระ ทั้งไม่มีการกำหนดใช้เครื่องหมายวรรคตอนโดยเฉพาะ"

คาดว่าจะมีการแปลเนื้อหากว่า 200 หน้าของตำราวอยนิชออกมาโดยละเอียดต่อไป ซึ่งในระหว่างนี้นักภาษาศาสตร์บางส่วนได้แสดงความสงสัยถึงวิธีการถอดรหัสของ ดร. เชสเชียร์ ว่ามีความถูกต้องหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่สรุปว่ามีภาษาโบราณอยู่เพียงภาษาเดียวที่เป็นต้นตระกูลของกลุ่มภาษาสมัยใหม่หลายภาษา

😀สรุปแล้วต้องมานั่งถอดรหัสอะไรก็ไม่รู้เสียเวล่ำเวลาทำมาหากิน

รายการบล็อกของฉัน

 hellomanman  happy-topay  invite-buying
 men-women-apparel diarylovemanman news-the-world
 homemanman alovemanman
 menmen-love
 ghost-in-manman  U.F.O.manman fishmanman
foodmanman  flowermanman herbs-in-manman
devilmanman herbs-in-manman manman clip