ตำนาน SAMSON AND DELILAH

Samson loved Delilah

แซมซั่นหลงรักเดไลลา มีเรื่องราวนี้อยู่ในไบเบิ้ลล่ะอีกอย่างมันทำเป็นหนังออกมา ต้นเหตุของคำว่าความรักทำให้คนตาบอดมั้ง.....
เนื้อเรื่องย่อๆ
พ่อ และ แม่ของแซมซั่น แต่งงานกันมาก็หลายปี แต่ยังไม่มีลูกด้วยกันซักที เพราะว่าแม่ของแซมซั่นเป็นหมัน สองสามีภรรยาจึงพากันสวดมนต์ภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้าเพื่อลูก ต่อมาสองสามีภรรยาก็ได้ลูกชายจริงๆ ชื่อว่าแซมซั่น และ สัญญาว่าจไม่ตัดผม ไม่ทานผลองุ่น ไม่ดื่มไวน์ และ ไม่แตะต้องซากศพคนตายด้วย

แซมซั่นก็เติบโตขึ้นมามีร่างกายกำยำแข็งแรง มีพละกำลังมากมาย แซมซั่นได้เข้าร่วมในการทำสงครามหลายต่อหลายครั้ง และ ก็เป็นฝ่ายชนะสงครามแทบจะทุกครั้งไป

มีคำ กล่าวกันว่า วันหนึ่งแซมซั่นเดินเลียบไปตามชายป่าพบสิงโตตัวมหึมาตัวหนึ่งผลุดออกมาจาก ป่านั้น เผ่นตรงเข้ามาด้วยหมายจะทำร้ายแซมซั่น แต่แซมซั่นได้ป้องกันตัวต่อสู้กับสิงโตนั้นด้วยกำลังมหาศาลของตนเอง เขาฉีกปากและร่างของสิงโตออกเป็นชิ้น ๆ จนสิงโตนั้นตาย และมีคำเล่าไว้อีกตอนหนึ่งว่า คืนวันหนึ่งแซมซั่นเข้าไปในนครกาซา เพื่อพักผ่อนหย่อนอารมณ์กับหญิงแพศยา พอพวกฟิลิสตีนรู้เข้าก็พากันนัดปิดประตูเมืองลั่นดาลไว้แน่น โดยหมายมั่นว่าจะช่วยกันรุมสังหารแซมซั่นเสียให้ตายในตอนเช้ามืด ฝ่ายแซมซั่นเองก็มิได้รู้ตัวว่าจะต้องเผชิญกับภยันตรายเช่นนั้น พอตกดึกเข้า เห็นสมควรแก่เวลาก็กลับบ้าน ขณะเดินไปยังประตูเมืองก็เห็นประตูเมืองปิดลั่นดาลอยู่ แซมซั่นจึงถอนเสาประตูเมืองขึ้นมา แล้วยกทั้งเสาทั้งบานประตูขึ้นแบกใส่หลังนำไปทิ้งไว้บนภูเขาใกล้เมืองนั้น

เวลาผ่านไป แซมซั่นเริ่มทะนงในความยิ่งใหญ่และชัยชนะของตน จึงผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กับพระผู้เป็นเจ้าหลายข้อ เหลือเพียงข้อเดียวเท่านั้นคือยังไม่ตัดผม เมื่อแซมซั่นผิดสัญญา ก็แน่นอนว่าหลายต่อหลายครั้งในการรบ แซมซั่นจึงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ช่วงเวลาที่แซมซั่นรบชนะนั้นได้สร้างความโกรธแค้นในใจ ให้เกิดขึ้นกับศัตรูมากมาย เพราะสงครามได้ทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งคร่าชีวิตของชาวเมืองของเค้าไปเป็นจำนวนมาก

แซมซั่นมีจุด อ่อนอยู่ที่มักจะพ่ายแพ้ต่อความงามของอิสตรี และ สาวงามที่แซมซั่นไปหลงรักก็กลับเป็นสาวชาวเมืองศัตรูชื่อว่า "เดไลล่า" ซึ่งเป็นสตรีที่ทั้งสวยและมีเสน่ห์เหลือเกิน ในขณะเดียวกัน เดไลล่าก็ได้รับการว่าจ้าง ให้สืบหาให้ได้ว่าจุดอ่อนของแซมซั่นคืออะไร เดไลล่าจึงเข้ามาตีสนิดกับแซมซั่น ในทุกๆคืนเดไลล่าจะ พยายามเฝ้าถามแซมซั่นเพื่อให้แซมซั่นยอมบอกความลับอันยิ่งใหญ่นี้กับตน
แซมซั่นทราบถึงแผนการของเดไลล่าดี เพราะว่าหลายต่อหลายครั้งที่แซมซั่นได้หลอกเดไลล่าว่าจุดอ่อน ของตนอยู่ตรงโน้นบ้าง ตรงนี้บ้าง เดไลล่าก็ลองทำ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ แซมซั่นยังคงมีพละกำลังมากมายมหาศาลเหมือนเดิม เดไลล่า จึงร้องไห้อ้อนวอนตัดพ้อต่อแซมซั่นว่าเพราะแซมซั่นไม่รักเธอจริง จึงไม่ยอมบอกความลับสำคัญเกี่ยวกับตัวเองให้เธอทราบ

จนมาวันหนึ่งแซมซั่น ทนเห็นเดไลล่าร้องไห้คร่ำครวญไม่ไหวอีกต่อไป จึงยอมบอกว่าจุดอ่อนของตนนั้นอยู่ที่ "ผม" คือไม่สามารถตัดได้...

เมื่อ เดไลล่าได้ทราบดังนั้น จึงแอบตัดผมของแซมซั่นในขณะที่แซมซั่นกำลังหลับอยู่ และ เมื่อตื่นขึ้นตอนเช้าแซมซั่นจึงรู้ว่าเดไลล่าได้ทรยศต่อความรักของตนเสีย แล้ว

แซมซั่นถูกจับและถูกควักลูกตาออกหมดทั้ง 2 ข้าง ถูกนำตัวไปควบคุมไว้ในคุกชั่วเวลานานพอสมควรแล้ว จนผมของแซมซั่นงอกขึ้นมาใหม่ แซมซั่นจึงกลับมีกำลัง และ เรี่ยวแรงขึ้น แต่บัดนี้เขาเป็นคนตาบอดไปเสียแล้ว

วันหนึ่งแซมซั่นได้ทราบข่าวว่าจะมีการจัดงานบูชาเทพเจ้าที่ชาว Philistines นับถือขึ้นที่ Temple of Dagon และ ในงานนั้นจะเป็นการชุมนุมของชาว Philistines นับพัน นักการเมือง ทหาร ผู้นำทางจิตวิญญาณ ประชาชนมากมาย รวมถึงเดไลล่าด้วย

เมื่อแซมซั่นเดินผ่านเข้ามา ฝูงชนก็โห่ร้องเยาะเย้ยอย่างน่าสงสาร ส่วนดิไลล่าห์นั้นพอเห็นรู้สึกปลาบปลื้มที่สามารถทำงานสำเร็จลุล่วง เธอจึงพูดกับแซมซั่นว่า “ถ้าไม่เห็นทางเธอจะจูงมือให้เดิน” (พูดด้วยน้ำสียงออกแนวเยาะเย้ย) พอแซมซั่นได้ยินสำเนียง ก็จำน้ำเสียงได้ จึงบอกให้เดไลล่าหนีออกไปให้พ้นชายคาของสถานที่ทำพิธี

จากนั้นแซมซั่นได้สวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าขอให้ยกโทษในสิ่งที่เคยทำผิดพลาดไปและขอให้ให้โอกาสกับตนอีกครั้ง...แล้วจึงใช้แขนทั้งสองดึงเสาทั้งสองลงมา วิหารทั้งวิหารจึงพังทะลายลง ก้อนหินนับ ร้อยนับพันที่ประกอบขึ้นรวมกันเป็นมหาวิหารก็ร่วงหล่นลงมาใส่ร่างของแซมซั่น และ ชาว Philistines ที่มาร่วมงานในวันนั้นกว่า 3000 คนจึงเสียชีวิตพร้อมกันหมด...วิหารเทพเจ้าพินาจทล่มทลายจนหมดสิ้น ฉากนี้ในภาพยนตร์นับว่าสมจริงมากพอสมควรครับสำหรับเทคนิคหนังสมัยก่อน