ช่างสักหนุ่มชาวโคลอมเบีย วัย 22 ปี เปลี่ยนแปลงตัวเองเหมือนหัวกะโหลก ทั้งสักตาขาวเป็นสีดำ ตัดหูและตัดจมูกทิ้ง เผยมีความสุขในสิ่งที่เป็น แม้แตกต่าง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นคนเลวร้าย
เอริก เยอิเนร์ อินกาปีเอ รามิเรซ (Eric Yeiner Hincapié Ramírez) หรือ Kalaca Skull คือชายหนุ่มชาวโคลอมเบีย วัย 22 ปี ผู้หลงใหลคลั่งไคล้ศิลปะที่เกี่ยวข้องกับ "กะโหลกมนุษย์" มาตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก และมีความคิดอยากสักลวดลายกะโหลกสวย ๆ ลงบนร่างกาย
เมื่อเขาเติบโตขึ้น เอริกก็เลือกประกอบอาชีพที่ตรงกับความต้องการของตัวเขา นั่นก็คือการเป็นช่างสัก เพราะเขามีความสุขในการได้ออกแบบลายสักให้กับคนอื่น รวมทั้งของตัวเองด้วย
เมื่อเขาเติบโตขึ้น เอริกก็เลือกประกอบอาชีพที่ตรงกับความต้องการของตัวเขา นั่นก็คือการเป็นช่างสัก เพราะเขามีความสุขในการได้ออกแบบลายสักให้กับคนอื่น รวมทั้งของตัวเองด้วย
ความหลงใหลในศิลปะที่เกี่ยวข้องกับกะโหลกไม่เคยจางหายไปจากหัวใจของเอริก เขาตัดสินใจสักใบหน้าตัวเองให้เป็นลายกะโหลกเท่ ๆ เหมือนกับหน้ากากในเทศกาลแห่งความตาย หรือ Día de Muertos แต่สำหรับชายหนุ่มคนนี้ แค่สักเพียงอย่างเดียวมันไม่พอ มันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้น ....
จากการรายงานของเว็บไซต์อ็อดดิตี้เซ็นทรัล เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2561 ระบุว่า แม่ของเอริกไม่ค่อยประทับใจของอาชีพการของลูกชายเธอสักเท่าไรนัก และเธอก็ไม่ชอบให้เขาสักอีกด้วย ยิ่งสักใบหน้ายิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะเธอไม่สามารถทำใจยอมรับได้ จนกระทั่งเมื่อ 2 ปีก่อน ตอนที่เอริกอายุ 20 ปี แม่ของเขาได้เสียชีวิตจากไป เขาจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่ใจปรารถนามาโดยตลอด เขาเริ่มสักใบหน้าด้วยลวดลายต่าง ๆ สักถมดำบริเวณรอบดวงตา และสักรูปฟันข้าง ๆ ปากและแก้มให้เหมือนกับกะโหลก แต่เท่านั้นยังไม่พอ เขาเปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพตัวเองด้วย
เอริกสักถมตาขาวของเขาให้กลายเป็นสีดำ ผ่าลิ้นตัวเองออกเป็น 2 แฉกแล้วย้อมให้เป็นสีเทาเข้มเกือบดำ หลาย ๆ คนอาจจะทึ่งว่าทำไมเขาทำถึงขนาดนี้ แต่นั่นยังไม่ใช่จุดพีค เพราะหลังจากสักตาและย้อมสีลิ้นแล้ว เอริกก็เข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมเฉือนใบหูและปลายจมูกของตัวเองทิ้ง
เพราะกะโหลกไม่มีจมูก ไม่มีหู และนั่นคือการเปลี่ยนแปลงที่เอริกมองว่าเขาเหมือนกระดูกเดินได้มากที่สุด
นับว่าเอริกเป็นคนแรกในประเทศที่ยอมตัดหูตัดจมูกของตัวเองทิ้งด้วยความสมัครใจ
เรื่องนี้ทำให้ชื่อของเขาปรากฏเป็นข่าวใหญ่ทั่วอเมริกาใต้ ผู้คนต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา เพราะพวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมคนร่างกายปกติครบ 32 ประการ ต้องตัดเนื้อเฉือนหนังตัวเองทิ้งโดยไม่มีเหตุผลด้วย
เรื่องนี้ทำให้ชื่อของเขาปรากฏเป็นข่าวใหญ่ทั่วอเมริกาใต้ ผู้คนต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา เพราะพวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมคนร่างกายปกติครบ 32 ประการ ต้องตัดเนื้อเฉือนหนังตัวเองทิ้งโดยไม่มีเหตุผลด้วย
อย่างไรก็ตาม เอริกไม่ได้เก็บเอาเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาคิดมาก เขาไม่ต้องการให้คนอื่น ๆ เข้าใจเขา แค่อยากให้ยอมรับในการตัดสินใจของเขาก็เท่านั้น เพราะการเปลี่ยนแปลงร่างกายตัวเอง ไม่ว่าจะแบบไหนก็ตาม มันเป็นการตัดสินใจและความชอบส่วนบุคคล มันไม่ต่างอะไรกับการศัลยกรรมเสริมจมูก เสริมสะโพก หรือเสริมหน้าอก ดังนั้นผู้คนจึงไม่ควรชี้นิ้วตัดสินว่าคนที่ทำแบบนี้เป็นคนไม่ดี เป็นคนแย่ หรือไม่เหมาะสม
แม้ว่ารูปลักษ์ของเอริกจะทำให้คนอื่นหวาดกลัว คนที่เดินสวนกับเขาบนท้องถนนต่างก็มองด้วยสายตาแปลก ๆ แต่เอริกก็ยืนยันว่าเขาก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่เป็นคนดี ไม่ได้มีนิสัยเลวร้ายอะไร เพียงแค่ชื่นชอบในสิ่งที่ดูแล้วอาจจะน่ากลัวก็เท่านั้น เอริกยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ทุกอย่างมันเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นเท่านั้น เขาจะปรับเปลี่ยนทุกอย่างไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้เป็นกระดูกเดินได้ตามที่เขาใฝ่ฝันเอาไว้
"สำหรับผม ความรู้สึกที่ผมมีต่อกะโหลกมนุษย์ ถ้าให้เปรียบเทียบ มันก็เหมือนกับความรักที่ผมมีให้กับน้องสาว มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว และผมก็ชื่นชอบมันมาก"
"จริง ๆ แล้วผมเองก็เป็นคนปกตินี่แหละครับ ผมแค่มีรูปลักษณ์ไม่เหมือนคนอื่นเขา ความแตกต่างตรงนี้มันขึ้นอยู่กับความคิดคนครับ เหมือนกับความแตกต่างในด้านอื่น ๆ อย่างเช่น การแต่งตัว หรือดนตรีที่ชอบ และสำหรับผมแล้ว ผมชอบและมีความสุขกับสิ่งที่ผมเป็นในตอนนี้ครับ"
เอริก กล่าว