บทความที่ได้รับความนิยม

วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

เปิดตำนาน Wendigo เวนดิโกอสุรกายผู้หิวกระหายเนื้อมนุษย์

เปิดตำนาน ‘เวนดิโก’ อสุรกายผู้หิวกระหายเนื้อมนุษย์ เรื่องจริงสุดเหลือเชื่อ เมื่อ ‘พ่อ’ฆ่าคนในครอบครัวเพื่อเอาเนื้อมากิน!
ค้นหา
จากเรื่องเล่าในตำนานของอสุรกายที่ชอบกินเนื้อมนุษย์เป็นอาหาร สู่เรื่องจริงของคดีฆาตกรรมสุดโหดร้ายที่ไม่น่าเชื่อว่า มนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่งจะสามารถกระทำเรื่องสุดป่าเถื่อนเช่นนี้ได้!

‘เวนดิโก’ (Wendigo) คือชื่อของอสุรกายผู้หิวกระหายเนื้อมนุษย์สุดโหดร้ายแห่งทวีปอเมริกาเหนือ เป็นเรื่องราวความเชื่อดั้งเดิมของชนเผ่าอัลกอนควินส์ (Algonquin) ชนพื้นเมืองในประเทศแคนาดาและทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา ตามตำนานกล่าวไว้ว่า เวนดิโก เป็นปีศาจครึ่งคนครึ่งสัตว์ รูปร่างสูงราว 3 เมตร แต่ผอมแห้งจนเห็นหนังหุ้มกระดูก ริมฝีปากของมันขาดรุ่งริ่ง ผิวหนังซีดเป็นศพ ดวงตาลึกกลวงโบ๋ มีเขาและเขี้ยวเล็บอันคมกริบ และมีลิ้นยาวตวัดไปมาได้ 

นอกจากนั้นกลิ่นตัวของมันยังเหม็นคาวราวกับกลิ่นของซากศพเน่าเปื่อย เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกของมันจากที่อธิบายมาข้างต้นนั้น แค่คิดก็ชวนให้สยดสยองยิ่งนัก ในส่วนของนิสัยภายในจิตใจไม่ต้องพูดถึง! เวนดิโก ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมอำมหิต ไร้ความปรานีต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก!

เวนดิโก มีนิสัยคล้ายกับผีดิบหรือซอมบี้ ที่ชอบเข้าสิงผู้คนให้กินเนื้อมนุษย์ด้วยกันเองเป็นอาหาร เมื่อใดก็ตามที่มันได้กินเหยื่อ มันก็จะยิ่งตัวโตเพิ่มขึ้นไปอีก และที่สำคัญมันคือปีศาจร้ายที่ไม่มีวันตาย! 

เพราะถ้าเกิดมีคนจัดการร่างที่มันสิงอยู่นั้น มันก็จะย้ายร่างไปสิงเหยื่อคนใหม่ทันที เป็นเช่นนี้เรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากจะสิงร่างของมนุษย์แล้ว เวนดิโกยังสามารถสิงร่างของสัตว์ได้อีกด้วย ตามความเชื่อดั้งเดิมบอกเอาไว้ว่า เวนดิโกชอบอาศัยอยู่ในป่าลึก เหยื่อของมันก็คือนักเดินป่าหรือผู้ที่หลงเข้ามาในป่านั่นเอง

หากคุณคิดว่า ‘เวนดิโก’ เป็นแค่ตำนานหรือนิทานปรัมปราล่ะก็ ลองมาฟังเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับนายพรานชาวอินเดียนแดงเผ่าครี (Cree) คนหนึ่ง นามว่า สวิฟต์ รันเนอร์ (Swift Runner) กันดูเสียหน่อย โดยเหตุการณ์ที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1879 ที่รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา พรานสวิฟต์เป็นที่รู้จักและเป็นที่เคารพรักของผู้คนทั่วไป เขามีภรรยา และลูกสาวชาย-หญิงที่น่ารักอีก 6 คน 

โดยในช่วงฤดูหนาวของทุกปี พรานสวิฟต์และครอบครัวจะอพยพไปอาศัยอยู่ในแคมป์ที่อยู่ลึกเข้าไปในป่า เพื่อล่าสัตว์และนำขนไปขาย แต่เมื่อหมดช่วงฤดูหนาวของปีนั้นเอง เขากลับเข้าไปในหมู่บ้านเพียงคนเดียว โดยปราศจากภรรยาและลูกๆ ของเขาทั้ง 6 คน…

จากความสงสัยดังกล่าวทำให้คนใกล้ชิดของครอบครัวพรานสวิฟต์ได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการติดตามหาตัวของภรรยาและลูกๆ อีก 6 คนที่หายตัวไป และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแกะรอยตามไปที่แคมป์ก็พบว่า มีหลุมศพและมีโครงกระดูกกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ 

พรานสวิฟต์ยอมรับสารภาพในภายหลังว่า ตนคือผู้ลงมือสังหารภรรยาและลูกๆ ทั้ง 6 คนเอง และนำชิ้นส่วนร่างกายของพวกเขามาทำอาหารกินจนหมด! 

แต่ที่เขาทำลงไปเพราะถูก 
‘เวนดิโก’ เข้าสิงจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้!
แม้ว่าเรื่องที่พรานสวิฟต์บอกว่าตนโดนเวนดิโกเข้าสิงนั้น จะเป็นเรื่องจริงหรือเป็นแค่คำแก้ตัว แต่สุดท้ายเขาก็หนีความผิดที่ได้ฆ่าภรรยาและลูกๆ ทั้ง 6 ชีวิตไม่พ้น โดยเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 1879 นายพรานสวิฟต์ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ!
เรียบเรียง : Spo

รายการบล็อกของฉัน

 hellomanman  happy-topay  invite-buying
 men-women-apparel diarylovemanman news-the-world
 homemanman alovemanman
 menmen-love
 ghost-in-manman  U.F.O.manman fishmanman
foodmanman  flowermanman herbs-in-manman
devilmanman herbs-in-manman manman clip