ย้อนกลับไปในช่วงปี 1911-1915 ได้เกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสยองขวัญในชุมชนคนผิวดำ ในเมืองแอตแลนต้า ที่ถูกขนานนามว่า แอตแลนต้า ริปเปอร์ ประเทศสหรัฐ โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นหญิงผิวดำ
เชื้อสายแอฟริกัน – อเมริกัน ประมาณ 15-21 คน
โดยศพของพวกเธอถูกเปลื้องผ้า และถูกเฉือดคอจนศีรษะเกือบหลุดออกมา ทำให้ประชาชนในเมืองแอตแลนต้าต่างหวาดกลัวฆาตกรรายนี้
เชื้อสายแอฟริกัน – อเมริกัน ประมาณ 15-21 คน
โดยศพของพวกเธอถูกเปลื้องผ้า และถูกเฉือดคอจนศีรษะเกือบหลุดออกมา ทำให้ประชาชนในเมืองแอตแลนต้าต่างหวาดกลัวฆาตกรรายนี้
หนึ่งในเหตุการณ์ที่โด่งดังที่สุด และอาจเป็นเพียงเบาะแสเดียวเกิดขึ้นในวันที่ 1 กรกฏาคม 1911 หญิงสาวชื่อ เอ็มม่า ลู ชาร์ป กำลังรอแม่ของเธอกลับมาจากการซื้อของที่ร้านขายของชำ แต่เมื่อเวลาผ่านไป แม่ของเธอยังไม่มาสักที ด้วยความเป็นห่วง เอ็มม่าจึงไปตามแม่ของเธอ และทำให้เธอได้พบกับชายแอฟริกันลึกลับรูปร่างสูงใหญ่ที่สวมหมวกสีดำดูท่าทางน่าสงสัย
ชายลึกลับคนนี้ดึงตัวเอ็มม่าแล้วเอามีดแทงเธอจากด้านหลัง แต่เอ็มม่าสามารถดิ้นรนและเอาชีวิตรอดออกมาได้ ภายหลังเอ็มม่าทราบว่าแม่ของเธอถูกชายคนนี้สังหารไปแล้ว และในอีกหนึ่งสัปดาห์ให้หลัง มีหญิงสาวอีกคนพบเห็นชายที่มีลักษณะต้องสงสัยเหมือนที่เอ็มม่าเคยพบ
เธอจึงหลบหนีได้อย่างหวุดหวิด
ภายหลังตำรวจเมืองแอตแลนต้าได้พยายามสืบหาตัวคนร้ายและนำตัวผู้ต้องสงสัยหลายคนมาสอบสวน ทว่ากลับกลับไม่ได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมเลย จึงยังไม่สามารถจับตัวฆาตกรที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญนี้มาลงโทษได้
เธอจึงหลบหนีได้อย่างหวุดหวิด
ภายหลังตำรวจเมืองแอตแลนต้าได้พยายามสืบหาตัวคนร้ายและนำตัวผู้ต้องสงสัยหลายคนมาสอบสวน ทว่ากลับกลับไม่ได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมเลย จึงยังไม่สามารถจับตัวฆาตกรที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญนี้มาลงโทษได้