เปิดประวัติฆาตกรต่อเนื่อง
ชวนขนลุกที่สุดในอเมริก
พอฆาตกรรมเหยื่อได้ 6 ราย เขาเริ่มทะเลาะกับแม่จนทุบหัวแม่ด้วยค้อนตายไปอีกคน ที่สยองคือเขาหั่นศพเธอเป็นชิ้นๆ มีเพศสัมพันธ์กับส่ว
ประเทศเราทุกวันนี้อัตราการเกิด “อาชญากรรม” จี้ ปล้นสูงขึ้นเรื่อยๆ จนนักโทษล้นคุก เจ้าหน้าที่ตามแก้ปัญหากันไม่หวาดไม่ไหว มองแง่หนึ่งก็ปวดหัว สังคมอันตรายขึ้นทุกวัน มองอีกแง่ก็ดีนะคะ ถือว่าตำรวจทำงานได้ดี คดีไหนๆ ก็จับได้เกือบหมด ไม่เหมือนเมื่อก่อนเทคโนโลยีการสืบสวนสอบสวนอาจจะยังไม่ไฮเทคขนาดนี้ ทำให้มี “ฆาตกรต่อเนื่อง” เกิดขึ้น และพวกนี้ก็ไม่ใช่ว่าจับกันได้ง่ายๆ เสียด้วย
และเรื่อง “ฆาตกรต่อเนื่อง” นี่ต้องยกให้อเมริกาค่ะ น่ากลัวมากจริงๆ โชคดีที่ไทยยังไม่มีฆาตกรที่จิตบกพร่องขนาดนี้ เราไปดูประวัติของฆาตกรพวกนี้กันค่ะว่าจะน่าขนลุกขนาดไหน...!!
รายแรก “เอ็ด เคมเพอร์”
“เอ็ด เคมเพอร์” เป็น “ฆาตกรต่อเนื่อง” ที่ไอคิวสูงมาก สูงถึง 130 เลยทีเดียว แต่เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น โรคจิตเภท ตอนอายุ 13 ปี เขาฆ่าย่าของตัวเองเพียงเพราะว่า “อยากจะรู้ว่าความรู้สึกตอนฆ่าย่ามันเป็นยังไง?” จากนั้นก็ฆ่าปู่ด้วยอีกคน เพราะกลัวว่าปู่จะรู้ความจริง เขาต้องเข้าบำบัดรักษา โรคจิตเภท อยู่สักพักจนเมื่ออายุได้ 21 ปี ได้รับการปล่อยตัวออกมาและย้ายมาอยู่กับแม่
เขาเริ่มล่าเหยื่ออีกรอบด้วยการสังหารพวกที่ชอบขอโดยสารรถฟรี และชอบมีเพศสัมพันธ์กับศพ พอฆาตกรรมเหยื่อได้ 6 ราย ก็เริ่มทะเลาะกับแม่จนทุบหัวแม่ด้วยค้อนจนตายไปอีกคน ที่สยอง คือเขาหั่นศพเธอเป็นชิ้นๆ มีเพศสัมพันธ์กับส่วนศีรษะของแม่ จากนั้นให้ศีรษะอันเดียวกันเป็น “เป้าปาลูกดอก!!”
นอกจากนี้ยังชวนเพื่อนแม่มาเที่ยวบ้านแล้วฆ่าเหยื่อตายไปอีกราย เขาโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจให้มาจับตัวเอง บอกตำรวจว่าต้องการโทษตายเพราะเป็น “ความฝันตั้งแต่เด็กแล้ว” แต่ศาลตัดสินให้เขาติดคุกตลอดชีวิตแทน สรุปเหยื่อที่เขาฆ่าไปคือ 10 ราย
2.“อัลเบิร์ต ฟิช”
อีตานี่เป็นพวกรักร่วมเพศที่ชอบความรุนแรง กินเนื้อเหยื่อและชอบร่วมเพศกับเด็ก ตำรวจเชื่อว่าเขาลวนลามเด็กมามากกว่า 400 คน แม้ว่าจะแต่งงานมีลูกมีเมียเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว (ลูก 6 คนแล้วค่ะ) พ่อรายนี้เริ่มออกอาการวิปริตโดยการให้ลูกๆ ตีตัวเองด้วยแผ่นไม้ที่มีตะปูแหลมคมเพื่อเพิ่มความสุขทางเพศ หรือเอาเข็มแทงอวัยวะเพศตนเอง จนในที่สุดเขาก็พัฒนามาเป็นการฆาตกรรมเด็กและกินเนื้อเหยื่อ หลังจากนั้นก็จะส่งจดหมายไปบอกพ่อแม่ของเด็กว่า... “เขาฆ่าลูกๆ อันเป็นที่รักยังไง” อัลเบิร์ตถูกจับในปี 2479 หลังจากฆ่าเหยื่อไป 4 ศพ สุดท้ายถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยเก้าอี้ไฟฟ้า
3.“ริชาร์ด เทรนตัน เชส”
นี่ก็โรคจิตไม่แพ้คนก่อนๆ “ริชาร์ด” เริ่มฆ่าแมวตั้งแต่อายุได้ 10 ขวบ ติดยาเสพติดอย่างหนักและแพทย์วินิจฉัยว่าเขามีอาการหวาดระแวงและเป็น โรคจิตเภท ต่อมาเขานึกอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ ต้องการเลือดสดๆ ของพวกสิ่งมีชีวิตมาชโลมตัวเพื่อไม่ให้เหี่ยวย่น เขาเลยเริ่มจากการฆ่ากระต่าย จากนั้นก็นก แมว หมา สุดท้ายมาจบที่คน
เขาฆ่าผู้หญิงท้องคนหนึ่ง มีเพศสัมพันธ์และกินศพเธอ จากนั้นก็เริ่มฆ่าผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กอีก 2 คน แล้วจึงมีเพศสัมพันธ์กับศพผู้หญิง หลังจากที่ตำรวจตามคดีจนเจอตัวเขาแล้วเข้าค้นอพาร์ทเม้นต์ก็ต้องพบภาพสุดสยองเพราะ “ทุกอย่าง” ในห้องล้วนเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ยิ่งไปกว่านั้น คือพบสมองเด็กอายุขวบกว่าถูกเก็บไว้บนจานพลาสติกในตู้เย็น พอถูกจับแล้ว “ริชาร์ด” ก็ฆ่าตัวตายในปี 2523 สรุปเหยื่อที่เขาฆ่าไปได้ 6 คน
4.“เอ็ด กีน”
ฆาตกรคนนี้ไม่ได้ฆ่าคนมากมายเหมือนคนอื่นๆ ค่ะ แต่ที่เขาต้องถูกจารึกไว้ เพราะการกระทำที่วิปริตผิดมนุษย์จนฮอลลีวูดได้แรงบันดาลใจเอาไปสร้างเป็นภาพยนตร์ เช่น Pyscho (2503) หรือตัวละคร “เลทเธอร์เฟซ” ในเรื่อง “สิงหาต้องสับ” และ “บัฟฟาโล บิลล์” ในเรื่อง “อำมหิตไม่เงียบ” เมื่อแม่ของ “เอ็ด” ตาย เขาและพี่ชายก็เริ่มออกขุดสุสานปล้นข้าวของคนตาย “นายกีน” ยังเอาเนื้อหนังของศพมาทำเป็นข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ รวมทั้ง “ชุดหนังมนุษย์” ของตัวเขาเองด้วย
จากนั้นเขาสังหารผู้หญิง 2 คนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง เมื่อตำรวจสืบจนทราบเรื่อง ก็เข้าบุกค้นบ้านของ “กีน” ทุกคนต้องตกตะลึง เพราะพบภาพจมูกมนุษย์ อวัยวะเพศถูกตัด หัวกระโหลกที่ถูกเอามาทำเป็นชาม หนังคนที่ทำเป็นหน้ากาก ศีรษะของเหยื่อที่ถูกเก็บไว้ในกระสอบ โคมไฟและเบาะเก้าอี้ที่ทำจากหนังคน นอกจากนี้ยังพบอวัยวะที่ถูกตัดแช่อยู่ในตู้เย็น เข็มขัดที่ประดับด้วยหัวนมและยังมีเฟอร์นิเจอร์อย่างอื่นที่มีหนังมนุษย์ปะอยู่ปนมาด้วย “นายกีน” ถูกส่งเข้าสถานบำบัดอาการจิตเภท เขาอยู่ในนั้นจนหัวใจวายเสียชีวิตในปี 2527
5.“เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์”
“เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์” คนนี้เป็นพวกรักร่วมเพศ ชอบไปนั่งอยู่ในบาร์เกย์แล้วล่อลวงชายหนุ่มให้มาเที่ยวที่บ้าน โดยบอกว่าจะให้เงิน เมื่อเหยื่อตกหลุมพรางมรณะก็จะลงมือมอมยา ข่มขืน บางครั้งก็จะทรมานเหยื่อก่อนจะรัดคอให้ตาย หลังจากนั้นก็จะลงมือข่มขืนศพ เขามักทำลายศพด้วยการใช้สารเคมี หรือแย่กว่านั้นก็กินศพไปเลย ที่ร้ายที่สุดเขาเคยใช้วิธี “Lobotomy” คือใช้ของแข็งเจาะเข้าผ่านเบ้าตาไปทำลายสมองเพื่อให้เหยื่อกลายเป็น “ทาสกาม” ของเขา
นายเจฟฟรีย์ยังบอกอีกว่า “เหยื่อบางคน ขนาดใช้สว่านเจาะกระโหลกเข้าไปที่สมองแล้วยังอยู่ได้ถึง 4 วันเลยนะ” เมื่อตำรวจเข้าจับกุมและค้นบ้านเขาก็พบ ศีรษะคน 4 อันอยู่ในตู้เย็นและร่างกายช่วงลำตัวอีก 3 ร่างถูกเก็บอยู่ในถัง เมื่อนายคนนี้ถูกจับเข้าไปอยู่ในคุกก็ถูกเพื่อนนักโทษคนอื่นซ้อมจนตายในปี 2537 สรุปเหยื่อที่เขาฆ่าคือ 17 ราย