Vincent van Goghศิลปินผู้เป็นตำนานของโลก จิตรกรที่ต่อสู้กับความเจ็บป่วยและสติอันไม่อยู่กับร่องกับรอยตลอดชีวิต
"วินเซนต์ แวนโก๊ะ" ศิลปินชาวดัตช์ผู้เป็นตำนานของโลก เขาเจ็บป่วยจากความเศร้า และต่อสู้กับสติอันไม่อยู่กับร่องกับรอยตลอดชีวิต ลำบากตัวเองยังไม่พอยังทำคนรอบข้างปวดหัวไปด้วยวีรกรรมสุดเพี้ยน จนใครต่างก็รู้ว่านี่คืออัจริยะที่น่าชื่นชมผลงาน แต่ไม่มีใครอยากเข้าใกล้รู้จักตัวตนจริงแน่
มีคำอธิบายในเชิงโรแมนติกว่า พลังที่พาวินเซนต์ระทมทุกข์และทำคนรอบข้างปวดหัว ก็เป็นพลังเดียวกับที่ขับเคลื่อนความอัจฉริยะของเค้านี่เอง
คล้ายกับซูเปอร์ฮีโร่ที่ได้รับพลังพิเศษมา แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะควบคุมพลังนั้นได้ จนมันระเบิดใส่คนรอบข้าง และสุดท้ายก็ระเบิดตัวเอง
“La Tristesse durera toujours”
คือประโยคสุดท้ายออกจากปากวินเซนต์ แวนโกะห์ พูดกับน้องชาย ก่อนจะสิ้นลม แปลว่า “The sadness will last forever. - ความเศร้าจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์”
ประโยคนี้จึงคำนิยามความเศร้าที่กัดกินจิตใจคนได้ชัดที่สุด เพราะไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร สร้างผลงานยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่ความเศร้านี้ก็จะยังคงอยู่ เกาะติดราวกับผีร้าย และทางเดียวที่จะหนีพ้นคือต้องตายไปตามกัน
ในกรณีของวินเซนต์ นั่นเป็นหนทางที่แวนโก๊ะเลือก ในปี 1890 เค้าหนีความเจ็บป่วยนี้ด้วยการยิงตัวตายในวัย 37 ปี
โลกศตวรรษถัดมา ผลงานของแวนโก๊ะเป็นที่รู้จักโด่งดังขายราคานับพันล้าน ชีวิตของแวนโก๊ะจึงเป็นเหมือนภาพแทนของคำว่า “ศิลปินผู้เศร้าโศก” หรือ “อิจฉริยะคนบ้า”
อันเป็นพล็อตที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกกับศิลปินและนักดนตรีอีกมากมาย...





