ซากศพมนุษย์ที่ถูกสับเป็นชิ้นๆ ใน 'ถ้ำเลือด' ของกัวเตมาลา เผยให้เห็นพิธีกรรมบูชายัญของชาวมายาโบราณ
แจกันดินเผาจำลอง (เตาเผาธูป) ที่มีรูปเทพเจ้าแห่งฝนของชาวมายาชื่อชาอัค ศตวรรษที่ 12–14
การจัดวางทางกายภาพของถ้ำยังมีบทบาทสำคัญในความสำคัญในพิธีกรรมอีกด้วย
ถ้ำซานเกรจะเปิดเฉพาะช่วงฤดูแล้งของกัวเตมาลา คือ เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม และมักจะอยู่ใต้น้ำตลอดทั้งปี ถ้ำแห่งนี้จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชมได้เฉพาะในช่วงฤดูแล้งของกัวเตมาลาเท่านั้น ซึ่งก็คือเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม โดยถ้ำแห่งนี้จะเปิดให้บริการในช่วงเวลาเดียวกับวันที่ 3 พฤษภาคม
ซึ่งเป็นวันแห่งไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันชาวมายายังคงเฉลิมฉลองกัน โดยวันนี้จะเป็นวันที่มีพิธีสวดภาวนาขอฝนและเก็บเกี่ยวผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์ โดยจัดขึ้นในถ้ำที่ถือเป็นช่องทางศักดิ์สิทธิ์ในการเข้าสู่โลกแห่งวิญญาณ
นักวิชาการเชื่อว่าการเสียสละครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เมื่อฤดูฝนใกล้เข้ามา ชาวมายาอาจใช้พิธีกรรม Chaac เพื่อถวายชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์เพื่อให้ฝนตกและมีผลผลิตทางการเกษตรอุดมสมบูรณ์
ซากศพมนุษย์ที่ถูกสับเป็นชิ้นๆ ใน 'ถ้ำเลือด' ของกัวเตมาลา เผยให้เห็นพิธีกรรมบูชายัญของชาวมายาโบราณ
ทางเข้าถ้ำแห่งหนึ่งที่ชาวมายาใช้ที่แหล่งโบราณคดี Dos Pilas เครดิต: Noche de la pena , CC BY-SA 3.0
แม้ว่าการสังเวยมนุษย์จะเป็นที่รู้จักในสังคมมายามานานแล้ว แต่สถานที่แห่งนี้ทำให้เราเห็นภาพได้อย่างชัดเจนและยังคงสภาพดีว่าพิธีกรรมเหล่านี้ทำกันอย่างไร
ซึ่งแตกต่างจากการฝังศพแบบเคารพซึ่งกันและกันในที่อื่นๆ ในโลกมายา กระดูกที่นี่แสดงให้เห็นว่าการสังเวยเป็นเพียงพิธีกรรมการแสดงที่จัดขึ้นเพื่อให้เทพเจ้าเห็น ไม่ใช่ซ่อนจากสายตาของมนุษย์
การวิจัยเกี่ยวกับกระดูกยังคงดำเนินต่อไป บลูซและทีมงานของเธอวางแผนที่จะทำการวิเคราะห์ดีเอ็นเอและไอโซโทปโบราณเพื่อระบุต้นกำเนิด สุขภาพ และความสัมพันธ์ของผู้คน





